ฟอร์ดเผยสียอดฮิตของ ‘เรนเจอร์ – เอเวอเรสต์’ จากทั่วภูมิภาค
“ถ้าหากคุณต้องใส่เสื้อผ้าชุ ดเดียวนานถึง 8 ปี คุณคิดว่าชุดที่ใส่จะต่างจากปั จจุบันอย่างไร”
นักออกแบบสีและวัสดุของฟอร์ดคือผู้มีหน้าที่เลือกสีบนตัวถังให้กับรถฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ที่จำหน่ายในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก พวกเขาได้รับโจทย์ว่า “ถ้าหากคุณต้องใส่เสื้อผ้าชุดเดียวนานถึง 8 ปี คุณคิดว่าชุดที่ใส่จะต่างจากปัจจุบันอย่างไร”
คริสตา ลินเดกเกอร์ นักออกแบบสีและวัสดุ ฟอร์ด ออสเตรเลีย กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นออกแบบสีรถยนต์ที่มีความหลากหลายเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคที่มีรสนิยมต่างๆ กันทั่วโลก”
ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์มีสีให้ผู้บริโภคเลือกรวมกันมากกว่า 30 สี ในตลาดนานาชาติซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ภูมิภาคอาเซียน ทวีปแอฟริกาเหนือและใต้ ไปจนถึงตะวันออกกลาง สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์มีสีรวมกันทั้งหมด 10 สีตั้งแต่สีขาวสะอาดตาอย่าง อาร์คติค ไวท์ไปจนถึงสีเหลืองสดใสอย่าง ลักซ์ เยลโลว์
สีของฟอร์ด เรนเจอร์และฟอร์ด เอเวอเรสต์ มีส่วนช่วยทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของรถมีความโดดเด่นมากขึ้น สีของรถเรียกได้ว่ามีความสำคัญไม่แพ้สมรรถนะ “โทนสีช่วยส่งเสริมตัวตนของผู้ขับขี่ และขับเน้นเส้นสายบนตัวถังได้เป็นอย่างดี” เอมิลี แฮร์ริงตัน นักออกแบบสีและวัสดุ ฟอร์ด ออสเตรเลีย กล่าว
สีฮิตที่สุดสำหรับฟอร์ด เรนเจอร์และฟอร์ด เอเวอเรสต์
- ในช่วงเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ถึงมีนาคม พ.ศ. 2567 โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) และโรงงานซิลเวอร์ตัน ประเทศแอฟริกาใต้ ผลิตและจำหน่ายรถฟอร์ด เรนเจอร์ สีขาว อาร์คติค ไวท์ มากถึงร้อยละ 26 ของจำนวนฟอร์ด เรนเจอร์ ทั้งหมด ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในตลาดนานาชาติ และเมื่อรวมกับสีขาว โฟรเซ่น ไวท์ และสีขาวอื่นๆ สัดส่วนยอดขายรถสีขาวทั้งหมดจึงสูงถึงร้อยละ 37
“สีขาวแสดงถึงรากฐานของฟอร์ด เรนเจอร์ ที่เป็นรถสำหรับการทำงาน เป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มผู้ซื้อรายใหญ่และเจ้าของธุรกิจรายย่อยที่ต้องการตกแต่งรถด้วยโลโก้ของบริษัทรอบคัน” คริสตา กล่าว
นอกจากนี้ สีขาวยังเป็นสียอดนิยมสำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์เช่นกัน โดยสีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ลมีสัดส่วนร้อยละ 20 ส่วนอาร์คติค ไวท์ ร้อยละ 14 รวมยอดขายรถสีขาวเป็นร้อยละ 34 ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ทั้งหมด
ในตลาดนานาชาติ ฟอร์ดมีรถสีขาวจำหน่ายทั้งหมด 4 เฉดสี ได้แก่ อาร์คติค ไวท์, สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, โฟรเซ่นไวท์ และสตาร์ ไวท์ เพิร์ล โดยสีขาวที่มีจำหน่ายในไทยได้แก่ อาร์คติค ไวท์ และสโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล
- แม้ฟอร์ด เรนเจอร์ สีดำ แอบโซลูท แบล็ค จะมียอดขายน้อยกว่าร้อยละ 101 แต่สีดำกลับเป็นสียอดนิยมอันดับ 2 ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ โดยมียอดขายถึงร้อยละ 18 และสีดำยังเป็นสีที่ครองใจลูกค้าชาวไทยผู้ซื้อฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ มากที่สุดจากยอดขายรวมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา1
- สีเทา เมทิเออร์ เกรย์นับเป็น ‘สีพื้นฐาน’ ยอดนิยมอันดับ 2 สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ ด้วยยอดขายร้อยละ 17 ในประเทศออสเตรเลีย และไทย ส่วนในแอฟริกาใต้ สีเทา คาร์บอนไนซ์ เกรย์ เป็นที่นิยมอันดับ 2 รองจากสีขาว โฟรเซ่น ไวท์ ด้วยยอดขายร้อยละ 15
- สีส้ม โค้ด ออเร้นจ์ เรียกได้ว่าเป็นสีไฮไลท์ของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ แต่สีที่ลูกค้าแร็พเตอร์นิยมซื้อมากที่สุดกลับเป็น สีเทา คองเคอร์ เกรย์ โดยมียอดขายมากกว่าสองเท่าของสีโค้ด ออเรนจ์ ทั้งในออสเตรเลีย ไทย และแอฟริกาใต้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
- สีเหลือง ลักซ์ เยลโลว์ ที่เพิ่มมาใหม่สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค เจเนอเรชันล่าสุด และเป็นสีไฮไลท์ใหม่ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไวลด์แทรค ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยยอดขายร้อยละ 2.2 ส่วนในออสเตรเลียทำยอดขายได้ร้อยละ 1.9 ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา1
“สไฮไลท์ของพวกเรามีความพิเศษ และได้รับเลือกมาเพื่อสร้างอัตลักษณ์ให้กับรถ และทำให้รถมีความโดดเด่นสะดุดตา” คริสตากล่าว
ย้อนกลับไปในปีพ.ศ. 2554 ช่วงยุคแรกของฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ฟอร์ดยุติการจำหน่ายรถกระบะสีฟ้า วินนิ่ง บลู และนำสีส้ม ชิลลี่ ออเรนจ์ เข้ามาแทนที่ แทบไม่น่าเชื่อว่าสีส้มและสีเหลืองจะยังคงเป็นสีที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นไวลด์แทรคมาจนถึงปี พ.ศ. 2567
“สีส้มและสีเหลืองที่เป็นสีหลัก ได้กลายเป็นสีที่แสดงอัตลักษณ์ของรถรุ่นไวลด์แทรค และลูกค้าฟอร์ดก็จดจำอัตลักษณ์นี้ได้ เราไม่เคยหยุดสร้างสรรการพัฒนาสีรถเพื่อดึงดูดลูกค้าให้ยังสนใจรถฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นไวลด์แทรคอยู่เสมอ” เอมิลีกล่าว
“พวกเราเริ่มค้นคว้าโทนสีสำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ และเอเวอเรสต์ นานถึง 5 ปีก่อนที่รถจะเริ่มวิ่งบนถนน เราศึกษาทั้งเทรนด์แฟชั่น สถาปัตยกรรม และเฟอร์นิเจอร์ เราวิเคราะห์ข้อมูลยอดขาย และกระแสวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์ของเราจะมีโทนสีที่ถูกใจและดึงดูดสายตาลูกค้าได้จากทั่วทุกมุมโลก” เอมิลี กล่าวสรุป
หมายเหตุ
[1] ข้อมูลจากการขายในแต่ละตลาดระหว่างเดือนตุลาคม 2566 – มีนาคม 2567