ปอร์เช่ คว้า 3 รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมเเห่งปี “Car of the year 2021”
สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตเเห่งยุคสมรรถนะเหนือระดับที่ผู้เชี่ยวชาญต่างให้การยอมรับ
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นำโดย ปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการ เเละ ธนบดี กุลทล ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ปอร์เช่ ประเทศไทย รับรางวัลในงานประกาศผลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 หรือ “Car of The Year 2021” โดยปอร์เช่ คว้ารางวัลอันทรงเกียรติถึง 3 รุ่น ได้แก่ ปอร์เช่ ไทคานน์ เทอร์โบ (Porsche Taycan Turbo) คว้ารางวัล “Best EV Supercar” ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid) คว้ารางวัล “Best Hybrid Luxury SUV” และ ปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) คว้ารางวัล “Best Performance Compact SUV” ณ รอยัล จูบิลี บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
Car of the Year คืองานประกาศรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี ซึ่งถูกจัดขึ้น โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นเเนล จำกัด (มหาชน) เพื่อคัดสรรยนตรกรรมยอดเยี่ยมเเห่งปีที่มีความโดดเด่นในเเต่ละด้าน สำหรับรถยนต์ที่ได้รับรางวัลจะต้อง ผ่านการทดสอบทั้งหมด 2 ส่วน โดยในส่วนแรกจะพิจารณาจากองค์ประกอบส่วนต่างๆ ทั้งในเรื่องของความสวยงาม, อรรถประโยชน์การใช้สอย, สมรรถนะ, ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เเละส่วนที่ 2 คือ การเปรียบเทียบ จากการขับขี่จริงในสถานีทดสอบต่างๆ โดยเริ่มจากสถานี การทดสอบการควบคุมและสัมผัสถึงอาการของรถที่ต้อง เปลี่ยนทิศทางกะทันหัน เพื่อให้รู้ถึงการยึดเกาะถนนเเละประสิทธิภาพของระบบช่วงล่างของรถ (Handling Test) ต่อด้วย การทดสอบแรงบิดของรถจากจุดสตาร์ทจนถึงจุดที่กำหนดเพื่อพิสูจน์สมรรถนะของเครื่องยนต์ในการออกตัว (Torque Test) จากนั้นวัดการสั่นสะเทือนเเละเเรงกระเเทกที่แตกต่างกันของรถแต่คัน (Suspension Test) สุดท้าย เป็นการทดสอบอัตราเร่ง ในเส้นทางตรง จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง (Acceleration Test) โดยคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบัน เเละองค์กรชั้นนำในสายวิศวกรรมยานยนต์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางรวมถึงสื่อมวลชนผู้เชี่ยวชาญสายยานยนต์ ต่างให้การรับรองอย่างเป็นเอกฉันท์ว่ารถยนต์ปอร์เช่คือยนตรกรรมสปอร์ตเเห่งยุคโดย
- ปอร์เช่ ไทคานน์ เทอร์โบ (Porsche Taycan Turbo) คว้ารางวัล “Best EV Supercar”
- ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Porsche Cayenne E-Hybrid) คว้ารางวัล “Best Hybrid Luxury SUV”
- ปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) คว้ารางวัล “Best Performance Compact SUV”
การคว้ารางวัลอันทรงคุณค่าอย่างต่อเนื่องของยนตรกรรมสปอร์ตจากปอร์เช่ถือเป็นการการันตีถึงสมถรรนะเเละเทคโนโลยี ที่ปลอดภัย หรูหราเเละสะดวกสบาย พร้อมตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ทุกรูปเเบบอย่างลงตัวไร้ที่ติ
ปอร์เช่ ไทคานน์ เทอร์โบ (Porsche Taycan Turbo)
สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตเเห่งการเดินทางในโลกอนาคต ปอร์เช่ ไทคานน์ รถสปอร์ต จากสายการผลิตปกติคันแรก จากปอร์เช่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ 4 ประตูซีดานติดตั้งระบบ ไฟฟ้าแรงดันสูง 800 โวลท์ แทนระบบ เดิมซึ่งมีแรงดันเพียง 400 โวลท์ ทำให้การชาร์จพลังงานมีระยะเวลาเร็วขึ้นอย่างมากและสมรรถนะ การขับขี่ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น ไทคานน์ เทอร์โบ พละกำลังสูงสุด 680 แรงม้า พิสัยเดินทางได้สูงสุดระยะทางกว่า 450 กิโลเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel-drive การออกแบบภายในห้องโดยสารได้รับเเรงบับดาลใจจากต้นตระกูลของปอร์เช่ 911 ติดตั้งหน้าจอแสดงผลความ ละเอียดสูงขนาด 16.9 นิ้ว มิติใหม่ของงานตกแต่งภายในที่ปราศจากการใช้วัสดุหนังเป็นครั้งแรกโดยชิ้นงานภายใน ประกอบด้วยนวัตกรรมวัสดุรีไซเคิล (ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท)
ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Porsche Cayenne E-Hybrid)
ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุด (The new Cayenne E-Hybrid) ยนตรกรรมพรีเมียม SUV แห่งยุคที่ติดตั้งขุมพลัง E-performance พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่ล่าสุด ผสมผสานการบังคับควบคุมสไตล์สปอร์ต ให้เป็นหนึ่งเดียวกับประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด เครื่องยนต์ V6 ขนาดความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร (340 แรงม้า/250 กิโลวัตต์) เสริมพลังด้วยระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า (136 แรงม้า/100 กิโลวัตต์) ให้พละกำลังสูงสุดรวมกว่า 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร ด้วยแนวคิดในการพัฒนาแบบเดียวกับปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 29.4 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 78 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร (ราคาเริ่มต้น 6.3 ล้านบาท)
ปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan)
ยนตรกรรมสปอร์ต SUV ขนาดคอมแพครุ่นล่าสุด ปอร์เช่ มาคันน์มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ขนาดความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 252 แรงม้า อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 12.3 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมทั้งอุปกรณ์มาตรฐานที่ได้รับการเพิ่มเติม ได้แก่ ไฟหน้า LED ระบบความบันเทิงและการติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management รุ่นล่าสุด ระบบเซ็นเซอร์หน้า-หลังพร้อมกล้องช่วยเหลือในการถอยจอด เบาะนั่งแบบ comfort ปรับได้ 14 ทิศทางที่สามารถ จดจำการตั้งค่าที่นั่งได้ ระบบช่วยเหลือการเปลี่ยนเลนส์ หรือเปลี่ยนช่อง ทางการขับขี่ ระบบปรับอุณหภูมิภายใน ห้องโดยสารแยกระหว่าง ตำแหน่งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ระบบเชื่อมต่อ bluetooth พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Apple CarPlay และ ระบบเครื่องเสียง BOSE Surround Sound System (ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท)