ปอร์เช่มุ่งมั่นเพิ่มสถิติชัยชนะในการแข่งขัน Le Mans
พรีวิวการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ FIA World Endurance Championship WEC สนามที่ 4 รายการ Le Mans 24 ชั่วโมง ที่ประเทศฝรั่งเศส
ทีม Porsche Penske Motorsport เดินหน้าเข้าสู่การแข่งขัน endurance สนาม highlight ของฤดูกาล 2566 ด้วยความคาดหวังที่เต็มเปี่ยม ทีมโรงงานปอร์เช่จะส่งรถแข่งปอร์เช่ 963 จำนวน 3 คัน ลงสนามเพื่อคว้าชัยชนะในรุ่น Hypercar class รายการ Le Mans 24 ชั่วโมง วันที่ 10 – 11 มิถุนายนนี้ ในฐานะที่ปอร์เช่เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการกุศล “Racing for Charity” ปอร์เช่จะรวบรวมเงินบริจาคสำหรับเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในทุกรอบการแข่งขัน เคียงคู่ไปกับวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี การแข่งขัน 24-ชั่วโมง ทีมแข่งอิสระ Hertz Team Jota เตรียมลงสนามแข่งด้วยรถแข่งปอร์เช่ 963 สำหรับรุ่น GTE-Am ทีมแข่งอิสระทั้ง 5 ส่งรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR รวม 8 คัน เข้าร่วมในสนามที่ 4 ของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รายการ FIA World Endurance Championship WEC
ทีม Porsche Penske Motorsport มีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวในการแข่งขันครบรอบ 100 ปี Le Mans 24 ชั่วโมง และครบรอบ 75 ปี การถือกำเนิดของแบรนด์ยนตรกรรมสปอร์ตหรูจากเมืองสตุ๊ทการ์ท และนั่นคือชัยชนะบนสนาม Circuit des 24 Heures เพื่อเพิ่มโอกาสสูงสุดในการแข่งขันอันดุเดือดในรุ่น Hypercar class ปอร์เช่ส่งรถแข่ง hybrid prototype 3 คัน จากรายการ North American IMSA WeatherTech SportsCar Championship เสริมทัพเพิ่มจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 2 คันในรายการ FIA WEC รถแข่ง LMDh พละกำลัง 700 แรงม้า (515 กิโลวัตต์) ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมสนับสนุนจากโรงงาน และได้รับการตกแต่งสีตัวถังพิเศษ ซึ่งเป็นการระลึกถึงเกียรติประวัติความสำเร็จของปอร์เช่ในการแข่งขันที่ Le Mans
ระหว่างการทดสอบล่าสุดที่สนาม Watkins Glen (ประเทศสหรัฐอเมริกา) Le Castellet (ประเทศฝรั่งเศส) และ Monza (ประเทศอิตาลี) ทีม Porsche Penske Motorsport ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่ใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ทีมแข่งอิสระจากสหราชอาณาจักร Hertz Team Jota ส่งรถแข่งปอร์เช่ 963 ลงเสริมทัพเพิ่มเติมในรุ่นสูงสุด สงครามความเร็วเพื่อช่วงชิงตำแหน่งชนะเลิศ overall ในครั้งนี้ ปอร์เช่ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งจากผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น อาทิ Ferrari, Cadillac, Toyota และ Peugeot
Thomas Laudenbach รองประธานกรรมการผู้กำกับดูแลส่วนงาน Porsche Motorsport กล่าวว่า “การแข่งขันรายการ Le Mans 24 ชั่วโมง ครั้งที่ 100 นับเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับปอร์เช่ ฤดูกาลนี้แบรนด์ของเราครบรอบการก่อตั้ง 75 ปี ไม่มีผู้ผลิตรถยนต์รายใดที่มีเกียรติประวัติความสำเร็จในการแข่งขัน Le Mans ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับปอร์เช่ เราเคยเป็นแชมเปี้ยน overall มาแล้วถึง 19 สมัย และแชมเปี้ยนในรุ่นต่าง ๆ อีกถึง 110 ครั้ง แน่นอนว่ามันยังคงไม่สิ้นสุด เรากำลังมุ่งมั่นกับการสร้างความสำเร็จครั้งที่ 20 บนผืนแผ่นดิน Sarthe ประเทศฝรั่งเศส เนื่องด้วยโอกาสครบรอบอันยิ่งใหญ่ เราส่งรถแข่งปอร์เช่ 963 ถึง 3 คันจากทีมโรงงาน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีรถแข่ง prototype จาก Weissach โดยทีมแข่งอิสระ Hertz Team Jota ลงสนามเพิ่มเติมอีกด้วย เราหวังว่าจะสามารถต่อสู้เพื่อช่วงชิงชัยชนะในรุ่นที่มีการขับเคี่ยวกันดุเดือดที่สุดอย่าง Hypercar class”
Urs Kuratle ผู้อำนวยการ Factory Motorsport LMDh กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นมากกับวาระครบรอบสุดยิ่งใหญ่ในการแข่งขัน Le Mans ครั้งนี้ ในช่วงการทดสอบ ทีม Porsche Penske Motorsport มีการเตรียมตัวอย่างเป็นระบบแบบแผน เพื่อรับมือกับการแข่งขันสำคัญที่รออยู่ข้างหน้า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณทำได้มีเพียงจำลองภาพของสนาม Circuit des 24 Heures ที่มีข้อจำกัดมากมายไม่เหมือนสนามอื่น เราเคยวิ่งทดสอบที่ Le Mans อย่างหนักหน่วง เพื่อปรับแต่งรถแข่งปอร์เช่ 963 ทั้ง 3 คัน สำหรับวิ่งบน high-speed circuit ขณะนี้เรายังคงไม่อาจสร้างความสมดุลในแง่ของพลังงานในรถแข่ง Hypercar class แต่สิ่งหนึ่งที่เรามั่นใจได้ ด้วยรถแข่งปอร์เช่ 963 ทั้ง 3 คันจากทีมโรงงาน และอีก 1 คันจากทีมแข่งอิสระ Hertz Team Jota เราอยู่ในสถานการณ์ที่ดีเยี่ยมที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”
Jonathan Diuguid กรรมการผู้จัดการของ Porsche Penske Motorsport กล่าว “การทุ่มเทแรงกายแรงใจร่วมกันอย่างเต็มที่ของทีมงานจากสองฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกทำให้เราได้ก้าวเข้ามาถึงจุดนี้ ในขณะที่รถแข่ง 1 คัน ผ่านการจัดเตรียมความพร้อมใน Mooresville ประเทศสหรัฐอเมริกา และอีก 2 คันอยู่ใน Mannheim ประเทศเยอรมนี ภายใต้การดำเนินงานของทีมแข่งหนึ่งเดียวนั่นคือ Porsche Penske Motorsport ส่วนอื่นที่เหลือทั้งหมดได้รับการเตรียมความพร้อมตามมาตรฐานสูงสุด ถึงตอนนี้เราต่างบรรลุภารกิจทั้งที่ Weissach และ Watkins Glen ส่วนรถแข่งปอร์เช่ 963 ทั้ง 3 คันกำลังเดินทางไปยัง Le Mans 24 ชั่วโมง การแข่งขัน endurance ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฤดูกาล แรงกดดันต่าง ๆ ถาโถมเข้ามาในทุกทาง การพิชิตชัยในการแข่งขัน Le Mans 24 ชั่วโมง ครั้งที่ 100 พร้อมการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปี ยนตรกรรมสปอร์ตปอร์เช่ คือความฝันที่กลายเป็นจริงสำหรับพวกเราทุกคน อย่างไรก็ตาม ขณะที่เราตั้งเป้าหมายแต่เรายังคงต้องมุ่งเน้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเป็นอันดับแรก”
แคมเปญการกุศล “Racing for Charity”: ปอร์เช่สนับสนุนกองทุนฟื้นฟูสุขภาพเยาวชน
ในแต่ละรอบของการแข่งขันที่ผ่านไปโดยรถแข่งปอร์เช่ 963 ทั้ง 3 คัน ปอร์เช่จะบริจาคเงินจำนวน 750 ยูโร (ประมาณ 27,975 บาท) ตามวาระครบรอบ 75 ปี ยนตรกรรมสปอร์ตปอร์เช่ หลังจากการแข่งขันระยะยาวของฤดูกาลสิ้นสุดลงในวันอาทิตย์ ยอดรวมของเงินบริจาคทั้งหมดจะได้รับการส่งมอบเพื่อสาธารณกุศลไปยังองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรทั้ง 3 แห่ง โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการช่วยเหลือเยาวชนผู้ประสบกับความเจ็บป่วยทั่วโลก
เกี่ยวกับการแข่งขัน
สนามอันเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานแห่งนี้ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองที่มีประชากรพักอาศัยราว 150,000 คน บนเส้นทางที่ผสมผสานกับถนนสาธารณะ โดยปกติ รถบรรทุกนับร้อยคัน และรถยนต์ของผู้คนทั่วไป จะขับขี่สัญจรผ่านเส้นทาง Mulsanne อันเลื่องชื่อเป็นประจำเพื่อเดินทางจาก เลอ มังส์ ไปยังที่หมายอื่น Porsche curves คือ จุดทางโค้งความเร็วสูงที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดี การทำความเร็วสูงในช่วงพื้นที่ที่แคบ คือความท้าทายในการแข่งขันระยะยาวสุดคลาสสิกบนแผ่นดินฝรั่งเศส ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการลุ้นตำแหน่งแชมเปี้ยนในทุกฤดูกาล คะแนนที่ได้รับจาก FIA WEC ที่ Le Mans จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากสนามอื่น ตัวอย่างเช่น ผู้ชนะจะได้รับคะแนนสะสมเพิ่มถึง 50 คะแนน จากที่เคยได้รับที่ 25 คะแนน
ทีมงาน และนักแข่งจากปอร์เช่
หน้าที่ในการขับขี่รถแข่งปอร์เช่ 963 จำนวน 2 คันจากรายการ FIA WEC ยังคงเป็นของนักแข่งประจำฤดูกาลแข่งขัน 2566 เช่นเดิม Dane Cameron จากประเทศสหรัฐอเมริกา Michael Christensen จากประเทศเดนมาร์ก และฮีโร่นักขับขวัญใจเจ้าบ้านชาวฝรั่งเศส Frédéric Makowiecki ผนึกกำลังในรถแข่งหมายเลข 5 ส่วนแชมป์ Le Mans 3 สมัย André Lotterer จากประเทศเยอรมนี แชร์ที่นั่งในรถหมายเลข 6 กับ Laurens Vanthoor หนุ่มเบลเยี่ยม และ Kévin Estre ชาวฝรั่งเศส ทางด้าน Felipe Nasr นักแข่งจาก IMSA ชาวบราซิล Mathieu Jaminet ชาวฝรั่งเศส และ นักขับแดนผู้ดี Nick Tandy จะลงประจำการในรถแข่งปอร์เช่ 963 คันที่ 3 ติดหมายเลข 75 ส่วนหนุ่มวัย 38 จาก Bedford ผู้เป็นแชมป์ Le Mans ฤดูกาล 2558 ควบรถแข่งปอร์เช่ 919 Hybrid หมายเลข 19 เพื่อเป็นกำลังเสริมรายที่ 3 ซึ่งปอร์เช่ส่งลงสนามในรุ่นสูงสุดของการแข่งขัน ทีมแข่งอิสระ Hertz Team Jota ส่งรถแข่งหมายเลข 38 เข้าร่วมประลองความเร็ว โดยมีนักแข่งสังกัดทีมโรงงาน António Félix da Costa ชาวโปรตุเกส Will Stevens จากสหราชอาณาจักร และ Yifei Ye นักขับแดนมังกร อายุ 22 ปี ซึ่งเขาได้การสนับสนุนจาก Porsche Motorsport Asia Pacific
สำหรับในรุ่น GTE-Am class มีรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR ลงชิงชัยทั้งหมด 8 คัน Richard Lietz นักแข่งทีมโรงงานจะลงแข่งให้กับทีมอิสระ Proton Competition ด้วยรถแข่งหมายเลข 911 หนุ่มออสเตรียจะทำงานร่วมกับ Martin Rump จากเอสโตเนีย และดารานักแสดงฮอลลีวูดชาวไอริช Michael Fassbender ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ของเขาในการลงแข่งรายการ Le Mans 24 ชั่วโมง 2 นักแข่งจากโครงการ Porsche Juniors ประกอบด้วย Julien Andlauer (ประเทศฝรั่งเศส) และ Matteo Cairoli (ประเทศอิตาลี) เป็นอีกคู่ที่ลงสนามให้กับทีมอิสระด้วยรถแข่ง 911 ทีม Iron Dames มอบหมายหน้าที่ให้กับนักแข่งหญิง Sarah Bovy ชาวเบลเยี่ยม ผู้เป็นอดีตนักแข่ง DTM ตามด้วย Rahel Frey จาก ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และ Michelle Gatting จากประเทศเดนมาร์ก
ภาพรวมของทีม และนักแข่ง
รุ่น Hypercar class (รถแข่งปอร์เช่ 963):
ทีม Porsche Penske Motorsport (รถแข่งหมายเลข 5): Dane Cameron (สหรัฐอเมริกา), Michael Christensen (เดนมาร์ก), Fréderic Makowiecki (ฝรั่งเศส)
ทีม Porsche Penske Motorsport (รถแข่งหมายเลข 6): Kévin Estre (ฝรั่งเศส), André Lotterer (เยอรมนี), Laurens Vanthoor (เบลเยี่ยม)
ทีม Porsche Penske Motorsport (รถแข่งหมายเลข 75): Felipe Nasr (สหราชอาณาจักร), Mathieu Jaminet (ฝรั่งเศส), Nick Tandy (สหราชอาณาจักร)
ทีม Hertz Team Jota (รถแข่งหมายเลข 38): António Félix da Costa (โปรตุเกส), William Stevens (สหราชอาณาจักร), Yifei Ye (จีน)
รุ่น GTE-Am class (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR):
ทีม Proton Competition (รถแข่งหมายเลข16): Ryan Hardwick (สหรัฐอเมริกา), Zacharie Robichon (แคนาดา), Jan Heylen (เบลเยี่ยม)
ทีม Project1 – AO (รถแข่งหมายเลข 56): PJ Hyett (สหรัฐอเมริกา), Gunnar Jeanette (สหรัฐอเมริกา), Matteo Cairoli (อิตาลี)
ทีม Iron Lynx (รถแข่งหมายเลข 60): Claudio Schiavoni (อิตาลี), Matteo Cressoni (อิตาลี), Alessio Picariello (เบลเยี่ยม)
ทีม Dempsey-Proton Racing (รถแข่งหมายเลข 77): Christian Ried (เยอรมนี), Mikkel Pedersen (เดนมาร์ก), Julien Andlauer (ฝรั่งเศส)
ทีม Iron Dames (รถแข่งหมายเลข 85): Sarah Bovy (เบลเยี่ยม), Michelle Gatting (เดนมาร์ก), Rahel Frey (สวิสเซอร์แลนด์)
ทีม GR Racing (รถแข่งหมายเลข 86): Michael Wainwright (สหราชอาณาจักร), Ben Barker (สหราชอาณาจักร), Riccardo Pera (อิตาลี)
ทีม Proton Competition (รถแข่งหมายเลข 88): Harry Tincknell (สหราชอาณาจักร), Jonas Ried (เยอรมนี), Don Yount (สหรัฐอเมริกา)
ทีม Proton Competition (รถแข่งหมายเลข 911): Michael Fassbender (ไอร์แลนด์), Martin Rump (เอสโตเนีย), Richard Lietz (ออสเตรีย)